2018.03.28

Like a Rolling Stone

สวัสดีครับ ชาวกรุงเทพ!

สวัสดีครับ ชาวกรุงเทพ!」

ผ่านมา 30 ปีแล้วครับตั้งแต่ผมได้เริ่มเข้ามาทำงานในวงการการตลาด
และปีนี้ในที่สุดผมก็ได้ก่อตั้งบริษัท Bigbeat Bangkok Co., Ltd. ที่ประเทศไทย
สมัยตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษา ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานการตลาด
เรียนรู้การใช้คำศัพท์อย่างเช่นคำว่า “ยุทธศาสตร์” และ “ยุทธวิธี” แต่ตอนนั้นผมยังคิดว่างานด้านการตลาดเป็นงานที่ดูอันตรายและน่ากลัวอยู่ แต่เนื่องจากผมมีความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจในวงการนี้ผมจึงสมัคร “Dentsu Award for Student Advertising Papers” หลายรอบและในที่สุดก็ได้รับตำแหน่งให้เป็นตัวแทนโฆษณากับบริษัทแห่งหนี่ง

ในช่วงนั้นผมได้รับหน้าที่ให้ดูแลโฆษณาโทรทัศน์และวิทยุ การส่งเสริมการขาย และใบปลิวให้กับบริษัทท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าของผม
ในงานเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของสาขาในชินจูกุ โตเกียว พวกเขาขายทัวร์ต่างประเทศในราคาแค่เพียง 39,800 เยน
สมัยนั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำแคมเปญโฆษณาการตลาด ก็สามารถขายได้ มีคิวต่อแถวยาวรอบๆตึกก่อนวันที่เปิดขาย ยาวถึงกับขนาดมีคนถ่ายรูปและเอาไปลงในนิตยสารรายสัปดาห์เลยทีเดียว แต่การตลาดได้เปลี่ยนไปแล้วครับ ผู้คนสมัยนี้ไม่ได้มีความต้องการเหมือนกันอีกต่อไปแล้ว หรือบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตอนนี้ต้องการอะไร

ด้วยเทคโนโลยีทางด้านอินเตอร์เน็ตทำให้การได้รับข้อมูลและการซื้อสินค้าแตกต่างกับสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับโฆษณาจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร? แล้วจะต้องทำอะไร? มูลค่าตลาดของฝ่ายโฆษณามีมากน้อยแค่ไหน?

ในยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผมในฐานะที่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการตลาดในยุคเก่าจะต้องคอยนึกเสมอว่านักโฆษณาสมัยนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วอะไรคือสิ่งที่ตลาดต้องการในยุคดิจิทัล
ชื่อคอลัมน์ของผมคือ “Like a Rolling Stone”
ซึ่งก็คือก้อนหินที่กลิ้งไปเรื่อยๆบนถนน แต่ผมอยากจะเป็นก้อนหินที่กลิ้งไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครับ
มีคนเคยพูดว่า “ตะไคร่น้ำจะไม่เกาะหินที่กลิ้ง”

ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ
หลังจากนี้ผมขอฝากเนื้อฝากตัวกับชาวไทยทุกท่านด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ

Bigbeat Bangkok
CEO&MD
Charlie