คนส่วนใหญ่คงเคยมีประสบการณ์ในการจัดสัมนาภายใต้หัวข้อการตลาดแบบ B2B กันอยู่แล้ว ซึ่งใช้เวลาและแรงงานมากกว่าที่คาดคิดไว้ แล้วผลที่ได้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง สิ่งที่เรารู้สึกได้รับนั้นคงไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่วัตถุประสงค์ในการจัดสัมนาเท่านั้นก็เป็นได้ สัมนาจัดขึ้นไปเพื่ออะไร? เราจะมาแนะนำถึงหลักสำคัญว่า จะจัดสัมนาอย่างไรเพื่อให้ได้ผล
POINT 1 “เนื้อหาที่ผู้เข้าร่วมสัมนาได้รับกับสิ่งที่ผู้จัดต้องการถ่ายทอดมีความแตกต่างกัน”
การจัดสัมนา เป็นการเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง ข้อดีสำหรับผู้เข้าร่วม ก็คือการได้พูดคุยสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ เช่นการจัดนิทรรศการ เป็นต้น ในเมื่อลูกค้าสละเวลามาเข้าร่วม เรา จึงต้องจัดสัมนาให้ลูกค้ารู้สึกได้รับประโยชน์ที่มาเข้าร่วม
ก่อนอื่น ต้องรู้ว่าคนส่วนใหญ่ชอบอะไร สนใจสิ่งไหน โดยการกำหนดเป็นเป้าหมาย โดยใช้ประวัติการเข้าWeb เป็นต้น
โดยเฉพาะการจัดสัมนาเป็นการรวมคนที่หลากหลายมารวมกันเพื่อให้สามารถปิดการขายได้ ดังนั้นเพื่อปิดการขายได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราจะต้องจัดสัมนาโดยเน้นที่เนื้อหาสาระสำคัญในการจัดสัมนานั้นขึ้นมา
นอกจากนี้ในการจัดสัมนา จำเป็นต้องกำหนดKPIให้ชัดเจนด้วย หากไม่วางแผนให้ชัดเจน ผลที่ออกมาก็จะไม่ดีตามไปด้วย
POINT 2 “ลูกค้าที่ไม่ค่อยได้พบปะจะมาเข้าร่วมการสัมนา”
หากเราทำให้คอนเซ็ปและเป้าหมาย (Goal) ชัดเจนแล้ว เราจะทำอย่างไรให้ดึงดูดลูกค้าได้
เมื่อถึงตอนนี้การใช้สื่อภายนอก ไม่ใช่ว่าจะมี “ลูกค้าใหม่” เข้าร่วมทันทีจากจำนวนของลูกค้าที่คาดว่าน่าจะมีประสบการณ์ตรงกับบริษัทของคุณ ถ้าหากการดึงดูดลูกค้าเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่สังกัดบริษัทที่กำหนดไว้แล้ว ก็จะเป็นการง่ายไม่ใช่หรือ หากทำได้ เราต้องตั้งเป้าหมายที่ไม่ใช่ลูกค้าที่พบปะเป็นประจำ หรือลูกค้าที่คาดว่าอยากจะไปพบ น่าจะเป็นเรื่องดีกว่า ดังนั้นจึงควรตั้งเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ค่อยได้พบ หรือลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนที่จะต้องพบปะ
POINT 3 “การรองรับของผู้ประสานงานมีอิทธิพลต่อความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมสัมนา”
เมื่อสรุปว่าจะมีการเชิญชวนลูกค้ามาเข้าร่วม จะต้องจัดเตรียมผู้ประสานสำหรับรองรับให้ดี
คนส่วนใหญ่จะไม่ตระหนักถึงความสำคัญของหน้าที่ผู้ประสานงาน แต่หน้าที่นี้เป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงานสัมนา ดังนั้นส่วนใหญ่จึงมีการบริการของผู้ประสานงาน หากเกิดความไม่พึงพอใจดังกล่าวขึ้น จะต้องสื่อสารข้อมูลให้กับหน่วยงานขายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
หากรู้ถึงความสำคัญเช่นนี้แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดทำระบบให้เพรียบพร้อมและตรวจสอบการบริการของผู้ประสานอย่างแข็งขัน
POINT 4 “การสัมนาคือการสร้างตราสินค้า (Branding) ที่สำคัญ”
วันจัดสัมนา สิ่งที่จะต้องใส่ใจมากที่สุดคือการรองรับบริเวณจุดลงทะเบียนที่เป็นด่านแรกในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมไม่พึงพอใจในการจัดสัมนาคือการรองรับบริเวณจุดลงทะเบียน ซึ่งเราอาจคิดว่าผู้เข้าร่วมสัมนาลงทะเบียนแล้ว แต่ปรากฎว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน ในวันงานจริง อาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้ แต่เราจะต้องคาดการณ์ว่าสิ่งที่อาจเกิดขึ้นนั้นเราจะมีมาตรการในการจัดการอย่างไรดี การจัดสัมนานั้นการต้อนรับอย่างอบอุ่นถือเป็นความต้องการพื้นฐานของลูกค้า ซึ่งการต้อนรับนั้นจะกลายเป็นการสร้างตราสินค้าต่อผู้เข้าร่วมอีกด้วย
POINT 5 “การคำนึงถึงอีเมลขอบคุณ”
เราอาจจะรู้สึกโล่งใจหลังจากจัดงานเสร็จแล้ว แต่ไม่ใช่วางมือเลยเพราะเหล็กต้องตีตอนร้อน ไม่เช่นนั้นแล้วงานสัมนาที่ตั้งใจจัดขึ้นมาอย่างดีก็จะล้มไม่เป็นท่า ตามปกติแล้วเราจะมีการส่งอีเมลขอบคุณไปยังผู้ที่มาเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆในงานสัมนานั้นๆ แต่เราลองคิดดูดีๆสิ ว่าเอกสารที่เราส่งแนบไปนั้นลูกค้าจะเปิดดูหรือไม่? หากเราลองปรับเปลี่ยนวิธีการให้ลูกค้าดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบรรยายได้ในเวปไซด์ (Seminar Follow up Site) เราจะรู้ได้ว่ามีใครบ้างที่ดาวน์โหลดข้อมูล นอกจากนี้ยังกล่าวได้ว่าการที่ผู้เข้าร่วมดาวน์โหลดข้อมูลแปลว่ามีความสนใจในการสัมนาอย่างมาก เช่น มีผู้ดาวน์โหลดข้อมูล 20 คน จากจำนวนผู้เข้าร่วมสัมนา 100 คน ซึ่งเราสามารถรู้กลุ่มเป้าหมาย ในจำนวน 20 คนนี้ ว่าฝ่ายขายควรเข้าหาลูกค้าด้วยวิธีใดจากข้อมูลที่ดาวน์โหลดไปได้อีกด้วย
POINT 6 “วิธีการใช้ประโยชน์จากเนื้อหาในงานสัมนา”
การบรรยายในงานสัมนา แนะนำให้อัดวิดีโอไว้ เพราะเนื้อหาในงานสัมนาก็คือRich Contents
หากเราอัพโหลดคลิปที่เป็นเนื้อหาในงานสัมนาในโลกโซเชียล เช่น เวปไซท์ จากคนที่เข้าร่วมสัมนา 100 คน เราสามารถทำให้คลิปนั้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อีกหลายเท่าตัว หากเป็นการสัมนาที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น แต่คลิปนั้นมีการแนบTelopภาษาไทย คนไทยก็สามารถดูคลิปสัมนานั้นได้เช่นกัน
เป็นอย่างไรบ้างครับ ? การจัดงานสัมนาเป็นช่องทางการตลาดแบบ B2B ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งบริษัทที่จัดงานสัมนานี้มีอยู่มาก หากคิดจะจัดงานสัมนาหนึ่งงาน จะต้องวางแผนการจัดสัมนาให้ได้อย่างที่เราคาดไว้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลงานขายอยู่ในระดับที่สูงจากการติดตามผลหลังงานสัมนา หรือการควบคุมจัดการผู้เข้าร่วมสัมนาให้ได้ผลดี ขอแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเฉพาะด้าน ซึ่งBigbeat Bangkok ขอเสนอบริการB-marketingเป็นเครื่องมือเฉพาะด้านในการสนับสนุน ตั้งแต่การควบคุมจุดลงทะเบียน การส่งข้อมูลFollow mail การเทรนลูกค้ากลุ่มที่คาดว่าจะเข้าร่วม ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของคุณ ลองพิจารณาบริษัทของเราไหมครับ เราเตรียมตัวอย่าง(Demo)ไว้ให้คุณแล้วครับ มาลองปรึกษาพวกเราดูนะครับ
>>> http://bit.ly/2sTRd78