2018.12.05

Case Study

การสัมมนา ASEANbeauty in Tokyo

การสัมมนา ASEANbeauty in Tokyo

ในประเทศไทยมีการจัดงานแสดงสินค้าความงามและสุขภาพ (Beauty Show) เป็นจำนวนมาก แต่จากในบรรดางานทั้งหมด มีมหกรรมงานจัดแสดงสินค้าที่กล่าวกันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่เรียกว่า “ASEANbeauty” อยู่ด้วย มหกรรมแสดงสินค้านี้จะถูกจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยว่ากันว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 12,000 ท่าน และมีบริษัทผู้จัดแสดงสินค้าความงามและสุขภาพกว่า 350 บูธ

ผู้บริหารจัดกิจกรรมในครั้งนี้คือ บริษัทที่มีฐานที่ตั้งของบริษัทอยู่ในประเทศอังกฤษชื่อว่า “UBM” ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลก (Global Company) ที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆในแต่ละประเทศทั่วทุกมุมโลก

พวกเรา Bigbeat Bangkok ได้ลงนามทำสัญญาการดำเนินงานร่วมกับ UBM และพัฒนาแผนงานที่จะดำเนินการร่วมกันโดยมีเป้าหมายคืองาน ASEANbeauty ในปีหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้น รวมถึงการจัด “การสัมมนา ASEANbeauty” เป็นครั้งแรก ณ กรุงโตเกียวด้วย

 

ตลาดสินค้าความงามและสุขภาพใน ASEAN ตื่นตัวและเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากในบรรดาตลาดเหล่านั้น สามารถกล่าวได้เลยว่าการที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในตลาดประเทศไทยหรือไม่นั้น มีอิทธิพลต่อความสำเร็จในตลาด ASEAN เลยทีเดียว

 

ทางเราจึงได้เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ คุณ Anna Vichvech ตำแหน่ง Group Director ของบริษัท UBM Asia(Thailand), คุณ Wuttipong Panisettakorn ตำแหน่ง Managing Director ของบริษัท Quality Plus, และคุณ Kirarista ผู้เป็น Beauty Blogger มายังประเทศญี่ปุ่นในฐานะวิทยากร โดยจัดบรรยายให้แก่องค์กรที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความงามและสุขภาพในประเทศญี่ปุ่นที่มีความตั้งใจจะเข้ามาลงทุนในตลาด ASEAN เพื่อให้ทราบถึงสภาพการณ์จริงของตลาดด้านความงามและสุขภาพในประเทศไทย

คุณ Anna จาก UBM ได้บรรยายเกี่ยวกับ “ASEANbeauty คืออะไร? ทำไมจึงต้องเป็น ASEANbeauty?” ภายในการสัมมนาครั้งนี้

 

มหกรรมงาน ASEANbeauty ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปีหน้านี้ เป็นที่กล่าวถึงว่ามีจำนวนผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงปีละ 20% ในทุก ๆ ปี โดยการประชุมหารือทางธุรกิจ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เองก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 3,300 คู่  และยังช่วยก่อให้เกิดธุรกิจที่มีมูลค่าถึง 1 พันล้านบาทขึ้นมาอีกด้วย

ASEANbeauty ได้เติบโตขึ้นมาเป็นงานแสดงเทรนด์ความงามและสุขภาพ (Beauty Trend Show) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ASEAN สมกับที่ได้รับการกล่าวถึง นอกจากนี้ UBM ยังดำเนินการจัดงานแสดงสินค้าความงามและสุขภาพ (Beauty Show) ในแต่ละประเทศทั่ว ASEAN และใช้เครือข่ายเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อที่จะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมอย่างทั่วถึง

คุณวุฒิพงษ์จาก Quality Plus ได้อธิบายถึง “ศักยภาพตลาดด้านความสวยความงามและสุขภาพของประเทศไทย”ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ใน ASEAN แล้ว ปัจจุบันนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สภาวะการเป็นสังคมผู้สูงอายุยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยในทางกลับกันจำนวนผู้ที่มีรายได้สูงเองก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มนี้มีความไว้วางใจและเชื่อถือในแบรนด์เครื่องสำอางประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และยังมีส่วนหนึ่งจากในกลุ่มนั้นที่ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ, ผลิตภัณฑ์ชะลอวัยอยู่ด้วย

ทว่าคุณวุฒิพงษ์ได้ชี้แจ้งว่า การที่จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจในตลาดไทยได้นั้นจะต้องไม่นำวิธีทำการตลาดที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นมาใช้กับประเทศไทย  แต่ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือจะต้องนำวิธีทำการตลาดที่เหมาะสมกับประเทศไทยมาใช้งานเป็นสำคัญต่างหาก

ซึ่งที่กล่าวมานี้คุณวุฒิพงษ์เองก็เป็นผู้ที่บริหารงานธุรกิจผลิตเครื่องสำอางอยู่เช่นกันจึงนับว่าเป็นเรื่องราวที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

ลำดับสุดท้าย คุณ Kirarista ได้กล่าวถึง “เสน่ห์ของเครื่องสำอางญี่ปุ่นสำหรับผู้หญิงชาวไทย” จากมุมมองของผู้บริโภคด้วยภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่วให้ทุกคนได้ฟัง เธอเป็นบล็อกเกอร์อันดับต้นของประเทศไทย เป็นนางแบบ และยังเป็นบุคคลที่ผู้หญิงชาวไทยต่างหลงใหลชื่นชมอีกด้วย

เสน่ห์ของเธอคนนี้คงจะไม่พ้นการที่แนะนำผลิตภัณฑ์โดยให้ความสนใจกับเครื่องสำอางญี่ปุ่นเป็นหลัก เธอกล่าวว่าลักษณะผิวของผู้หญิงชาวไทยมีความละเอียดอ่อนและเหมาะสมกับเครื่องสำอางญี่ปุ่น นอกจากนั้นการดูแลผิวจะต้องดูแลไม่ใช่แค่เพียงผิวพรรณภายนอกเท่านั้น แต่ต้องสร้างความงามของผิวพรรณจากภายใน นี่อาจเป็นสิ่งที่เธออยากให้ทุกคนได้ตระหนักถึงก็เป็นได้

การบรรยายที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นทุ่มเทของทั้ง 3 ท่าน ส่งผลให้เวลาล่วงเลยจากที่วางกำหนดการไว้เป็นอย่างมาก แต่ยิ่งกว่าสิ่งอื่นสิ่งใดนั้น จำนวนคำถามที่ได้รับเกินความคาดหมายจากผู้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ ทำให้พวกเราได้รับรู้ว่า ผู้เข้าร่วมการสัมมนามีความสนใจต่อตลาดด้านความงามและสุขภาพในประเทศไทยมากถึงเพียงใด

ในครั้งนี้พวกเรา Bigbeat Bangkok ได้ร่วมมือกับ Bigbeat โตเกียว เปิดให้บริการด้านการตลาดสำหรับลูกค้าองค์กรที่วางแผนเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย

ซึ่ง Japan Pavilion ภายในงาน ASEANbeauty ได้มีการนำโลโก้และ Theme Message คำว่า “JAPAN RECOMMEND” ขึ้นแสดง และแต่งตั้งให้คุณ Kirarista เป็น Ambassador อีกด้วย

การบริการของทางเราไม่ได้จบแค่เพียงออกบูธในงานจัดแสดงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมการดำเนินการต่าง ๆ อีกมากมายที่ช่วยให้ผลสำเร็จของการตลาดยังคงเหลืออยู่เช่นเดิม

กรุณาสอบถามที่ Bigbeat Bangkok หรือ Bigbeat หากท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.aseanbeautyshow.com/th-th/