2019.08.12

Bigbeat LIVE

「Bigbeat LIVE~Global Stage~」

「Bigbeat LIVE~Global Stage~」

ในวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เราได้จัดประชุมเสวนาการตลาด B2B “Bigbeat LIVE” ขึ้นที่โตเกียว โดยแนวคิดพื้นฐานของ Bigbeat LIVE คือ “เปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการด้วยการตลาด” เมื่อการตลาดเปลี่ยน การบริหารจัดการก็เปลี่ยน วิธีการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นทอด ๆ นี้ จะช่วยให้เกิดแนวโน้มที่ดีขึ้นอีกในอนาคต เราจึงตั้งหัวข้อของงานปีนี้ว่า「Go for it」

ในปีนี้ก็มีนักการตลาดได้มาเข้าร่วมงานของเรามากกว่า 500 ราย

โดยครั้งนี้ Bigbeat LIVE ได้แบ่งเนื้อหาออกเป็น「เวทีหลัก」กับ「เวทีพิเศษ」ซึ่งใน 「เวทีหลัก」นั้นจะแบ่งย่อยออกไปอีก 3 เวทีตามหัวข้อ ได้แก่「วาดอนาคตของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จได้จริง」「เปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยความเอาใจใส่」และ「จัดตั้งศูนย์กลางในฐานะนักการตลาด」

นอกจากนี้ใน「เวทีพิเศษ」เรายังได้ลองนำเสนอหัวข้อ「การบริหาร×การตลาด」และ「การขยายตัวในต่างประเทศ×การตลาด」เป็นครั้งแรกอีกด้วย

เนื่องจากผมได้มีส่วนร่วมในการวางแผนหัวข้อ「การขยายตัวในต่างประเทศ×การตลาด」จึงขอรายงานรายละเอียดให้ทราบ ดังนี้

ใน Global Stage นี้ คุณ Kentaro Sakamoto จาก Cybozu, คุณ Yusuke Mameda จาก Studist (ประเทศไทย), คุณ Shuhei Yamamoto จาก WingArc สิงคโปร์ พร้อมกับผม และ คุณ Naotake Hibiya ผู้ดำเนินรายการ ได้จัด Panel Discussion โดยใช้หัวข้อ「No Marketing, No Global」

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทั้ง 4 ท่านต่างไม่เคยมีประสบการณ์ทางธุรกิจในต่างประเทศมาก่อน แต่กลับได้รับมอบหมายให้ย้ายมาทำงานในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ซ้ำยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มากนัก และยังพบข้อมูลอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่น่าประหลาดใจ จนทำให้เวทีนี้มีบรรยากาศครึกครื้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทั้ง 4 ท่านยังต้องค้นหาเส้นทางธุรกิจที่ไม่มีใครเคยค้นพบมาก่อนอีกด้วย

สำหรับประเด็นความแตกต่างของการทำธุรกิจในต่างประเทศและญี่ปุ่น ปัญหาที่ต้องเจออย่างแน่นอน ก็คือ อุปสรรคทางด้านภาษา ซึ่งไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่เป็นภาษาท้องถิ่นที่มีความจำเป็นในการทำธุรกิจของประเทศนั้น ๆ แม้ว่าผู้คนในท้องถิ่นบางส่วนจะสามารถเข้าใจแคตตาล็อกและเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ก็อาจไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้เท่ากับข้อมูลที่ถูกเขียนเป็นภาษาท้องถิ่น

นอกจากนั้น ยังพบว่าอัตราการลาออกของพนักงานมีค่อนข้างสูง จึงทำให้สถานการณ์ธุรกิจของบริษัทไม่นิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ในด้านการสรรหาบุคลากร และยังมีปัญหาด้านการบริหารจัดการที่ใหญ่ไม่แพ้กัน นั่นคือ การหาวิธีกระตุ้นให้พนักงานมีแรงบันดาลใจในการทำงาน

มีคำถามจากผู้เข้าร่วมงานว่า “ในฐานะที่เป็นสำนักงานสาขาของสำนักงานใหญ่ คุณกำลังพยายามทำธุรกิจโดยมีบริษัทญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายหรือกำลังพยายามเปลี่ยนการบริหารให้เป็นแบบท้องถิ่นอยู่?” ซึ่งคำตอบที่ได้ คือ หากหยุดอยู่แค่ในวงการบริษัทญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว จะทำให้ไม่สามารถขยายกิจการต่อไปได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ความสนใจกับบริษัทท้องถิ่นด้วย ด้วยเหตุนี้การสรรหาและฝึกอบรมพนักงานท้องถิ่นหรือการทำงานร่วมกับตัวแทนขายในท้องถิ่นจึงกลายเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วน

บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งกำลังขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขากำลังทำธุรกิจเฉพาะกับบริษัทญี่ปุ่นที่กำลังขยายธุรกิจในท้องถิ่น แล้วบริษัทในเครือต่างประเทศอื่น ๆ เช่น ยุโรป และอเมริกาล่ะ? พวกเขาทำธุรกิจเฉพาะกับบริษัทที่มาจากประเทศของตนเท่านั้นหรือเปล่า? นี่คือประเด็นที่น่าสนใจมาก พวกเขาต่อสู้กันอย่างไร? ผมคิดว่าพวกเขากำลังต่อสู้โดยใช้เครื่องมือทางการตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม บริษัทญี่ปุ่นกลับส่งเพียงฝ่ายขายที่มีผลงานยอดเยี่ยมไปต่างประเทศและปล่อยให้พวกเขาต่อสู้ด้วยทักษะการขาย

แม้ว่าทั้ง 3 ท่านที่ขึ้นมาบนเวที จะยังไม่สามารถให้คำตอบของคำถามที่ว่า การตลาดจำเป็นหรือไม่ในต่างประเทศ? ได้ก็ตาม แต่เท่าที่คุยกันมาทั้งหมดก็พอจะทำให้มองเห็นภาพของ 「No Marketing, No Global」 ได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

คุณ Yoshihisa Aono ประธานของ Cybozu ซึ่งคุณ Sakamoto ร่วมสังกัดอยู่นั้น ได้เขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า “ญี่ปุ่นยังไม่มีบริษัทซอฟต์แวร์ด้านไอทีที่ประสบความสำเร็จระดับโลก และนั่นเป็นเหตุผลที่เราจะกลายเป็นผู้ผลิตกรุ๊ปแวร์ที่ถูกใช้มากที่สุดในโลก” วิสัยทัศน์ของบริษัทเรา คือ “การสร้างสังคมที่รู้จักการทำงานเป็นทีม” ผมต้องการถ่ายทอดปรัชญานี้ให้กับผู้คนทั่วโลก และแทนที่จะสร้างความแตกต่างให้กับกรุ๊ปแวร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มว่าจะถูกทำเป็นสินค้า เรากลับพยายามทำให้ลูกค้าเลือกเราจากมุมมองและเรื่องราวที่มาพร้อมกับแบรนด์ Cybozu เพราะใครๆก็สามารถคัดลอกเทคโนโลยีของเราได้ แต่มุมมองและเรื่องราวที่มาพร้อมกับแบรนด์นั้นไม่สามารถถูกคัดลอกได้ ดังนั้นเพียงแค่ทักษะการขายอย่างเดียวคงไม่พอสำหรับการทำธุรกิจ

คุณ Yamamoto จาก WingArc ก็ได้กล่าวว่า「จงใช้พลังของข้อมูลในการเพิ่มศักยภาพของบุคคล」โดยมีที่มาจากเว็บไซต์ที่ชื่อว่า「Data Time」 ซึ่งมีเนื้อหาแนะนำเกี่ยวกับ「แนวคิดและเคล็ดลับในการทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นผ่านการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ」 และพวกเขาก็กำลังพยายามถ่ายทอดมุมมองและเรื่องราวที่มาพร้อมกับแบรนด์ WingArc เช่นเดียวกัน

「Go for it !」

ขออนุญาตยืมคำพูดของ คุณ Mameda「ตอนนี้ผมกำลังสร้างถนนลูกรังอยู่ครับ พอสร้างถนนลูกรังสายนี้เสร็จแล้ว ผมก็จะไปสร้างถนนลูกรังที่อื่นต่อ」

ผมไม่คิดว่าการขยายตัวในต่างประเทศจะเป็นทางเลือกเดียวในการทำธุรกิจ แต่ถ้าคุณคิดที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศแล้วล่ะก็ คุณควรลงมือทำทันที

การขยายธุรกิจในต่างประเทศนั้นเปรียบได้กับการไปพบทันตแพทย์ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะมีฟันผุและทราบดีว่าจะต้องไปพบทันตแพทย์แน่นอนในสักวันหนึ่ง แต่คุณก็มักจะเลือกรอดูอาการก่อนแล้วค่อยตัดสินใจไปพบทันตแพทย์ในภายหลัง ทั้งที่รู้ว่าท้ายที่สุดก็ต้องไปอยู่ดี ดังนั้นการไปพบทันตแพทย์ทันทีจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ

จาก Panel Discussion ครั้งนี้ ทำให้ทราบว่าหลายท่านกำลังประสบกับปัญหาคล้ายคลึงกันและไม่ได้กำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านั้นเพียงลำพัง นอกจากนี้ ยังทำให้ทราบถึงความสำคัญของการแบ่งปันข้อมูลและให้คำปรึกษาซึ่งกันและกันอีกด้วย

หากคุณกำลังพยายามที่จะขยายธุรกิจสู่อาเซียนและประสบปัญหาเกี่ยวข้องกับการตลาด เราพร้อมและยินดีที่จะให้คำปรึกษาครับ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ คุณ Sakamoto, คุณ Mameda, คุณ Yamamoto ที่สละเวลากลับมาประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมงาน Bigbeat LIVE และคุณ Hibiya ผู้ดำเนินรายการครับ