2019.12.06

B2B Marketing

“CEBIT ASEAN Thailand 2019″ Post Show Report”

“CEBIT ASEAN Thailand 2019” Post Show Report

ขอเล่าถึง ICT โซลูชั่น อันยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น

CEBIT ASEAN Thailand 2019 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ถึง วันที่ 29 เดือนพฤศจิกายน เป็นเวลา 3 วัน

CEBIT ASEAN Thailand เป็นนิทรรศการ B2B ที่จัดขึ้นครั้งแรกในเอเชีย เมื่อเดือนตุลาคม 2018

ในฐานะที่เป็นเมืองตัวอย่างของ “ ICT และธุรกิจดิจิตอล” โดยมี German Messe และฝ่ายการจัดการนิทรรศการ IMPACT ของประเทศไทยร่วมกันจัดขึ้น ตามรูปแบบของ CEBIT ซึ่งเป็นนิทรรศการชั้นนำของเยอรมนี  ปีนี้จัดงานเป็นครั้งที่ 2

สำหรับประเทศไทย การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับชาติที่เป็นหลักสำคัญ เรียกกันว่า“ ไทยแลนด์ 4.0”  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจในการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืนด้วยนวัตกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในทุกภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย และคาดการณ์ว่าภายในปี 2027 จะมีส่วนช่วยกระตุ้น GDP ของไทยได้ราว 25%

ดังนั้น CEBIT ASEAN Thailand  จึงได้รับความสนใจอย่างมาก ในฐานะที่เป็นนิทรรศการซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ของไทย เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม   กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี    สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการกานานาชาติแห่งประเทศไทย (TCEB)

ประเทศญี่ปุ่นได้รับการกล่าวขานว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี IT ขั้นสูง บริษัทหลายแห่งในญี่ปุ่นมุ่งเน้นด้าน IT และกล่าวกันว่า   หากบริษัทไหนไม่มี Digital Transformation ก็อาจมีความเสี่ยงในการดำเนินงานของบริษัทต่อไปในอนาคตได้  ดังนั้นความรู้ดังกล่าวนี้จึงถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในภูมิภาคอาเซียน แต่เป็นที่น่าแปลกใจ เมื่อได้รับทราบจากการพูดคุยกับผู้จัดงาน CEBIT ว่าบริษัทในประเทศไทยจำนวนมากไม่รับรู้หรือไม่เข้าใจเทคโนโลยี ICT ของประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่พวกเราต้องการคือ “อยากจะให้ถ่ายทอด ICT Solution อันยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น” และ “นั่นคือการผลักดันไทยแลนด์ 4.0”

ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงตัดสินใจวางแผนโดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับโซลูชั่น ICT ของญี่ปุ่นในงาน CEBIT ASEAN Thailand ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นงานแสดงนิทรรศการทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพียงงานเดียวในประเทศไทย

ในครั้งนี้ Cybozu Inc. WingArc 1st และ HULFT Pte ทั้ง 3 บริษัทได้ตกลงร่วมกัน

โดยใช้ชื่อโครงการว่า “JAPAN RECOMMEND IT” เป็นการแนะนำโซลูชั่นด้าน ICT อันแสนยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า kintone, Dr. Sum, MotionBoard, HULFT และ DataSpider

ในกรุงเทพฯ มีการจัดนิทรรศการ B2B และมีหลายธุรกิจสนใจเข้าร่วม แน่นอนว่ามีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากมาร่วมออกบูธเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม การออกบูธของนิทรรศการที่จัดในต่างประเทศนั้น สำหรับบริษัทญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องยาก มองเผิน ๆ จึงดูเหมือนมีบริษัทจำนวนมากมาร่วมออกบูธเท่านั้น แต่ที่จริงแล้ว การออกบูธในงานนิทรรศการถือเป็นการลงทุนด้านการตลาดของบริษัท พวกเราจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของการออกบูธว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถถ่ายทอด ICT โซลูชั่นอันยอดเยี่ยมของญี่ปุ่นได้ และทำให้บริษัทที่มาออกบูธคิดว่าการได้ออกบูธเป็นสิ่งที่ดี

การตลาด B2B ของประเทศญี่ปุ่น มีแนวความคิดว่า Content Marketing ที่ใช้ Owned media นั้นมีประสิทธิภาพ แต่ในการตลาด B2B ของประเทศไทย Content Marketing อาจยังไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าไรนัก

ก่อนอื่นเราควรหาคำตอบว่าต้องการให้รู้เรื่องอะไรก่อนเป็นลำดับแรก เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นเองก็มีรูปแบบการ push ที่เรียกว่า Lead Generation และ Outbound Marketing เป็นกระแสหลัก

สำหรับผลลัพธ์ที่ได้ เราสามารถได้รับ Lead ทั้งหมดประมาณ 500 เรื่อง และได้เห็นสถานการณ์ที่น่าดีใจบางอย่างซึ่งเป็นข้อเสนอออเดอร์ในช่วงนิทรรศการ นอกจากนี้หลังจากนิทรรศการเสร็จสิ้น เราได้พยายามสร้างโอกาสการเจรจาด้านธุรกิจด้วยการ Outbound call ไปยัง Lead ทั้งหมด

รวมถึงใน Facebook และเว็บไซต์ของผู้จัดงานเอง  ก็ยังได้แนะนำ “ JAPAN RECOMMEND IT” ในเชิงรุก นอกจากนี้ผู้จัดงานก็ยังให้เวลานำเสนอบนเวทีนิทรรศการกับทั้ง 3 บริษัทอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่ตั้งบูธถูกจัดให้อยู่โซนด้านหน้าทางเข้าหลักของสถานที่จัดงาน ทำให้ผู้เข้าชมสามารถสังเกตเห็นและให้ความสนใจ นอกจากนั้นเวทีด้านในบูธยังช่วยดึงดูดสายตาของผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและความไว้วางใจกับผู้จัดงานนิทรรศการเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อช่วยทำให้ Event Marketing ในต่างประเทศประสบความสำเร็จ

สำหรับ CEBIT ASEAN Thailand นั้น เนื่องจากจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 จึงคาดว่าจำนวนผู้เข้าชมอาจจะน้อยเมื่อเทียบกับนิทรรศการ ICT ของญี่ปุ่น     แต่ความตั้งใจของผู้เข้าชมและความเป็นไปได้ในการสั่งซื้ออยู่ในอัตราที่สูง จนรู้สึกว่าไม่ควรเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นในด้านจำนวนคนเพียงอย่างเดียว

สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณบริษัทที่ได้เข้าร่วมออกบูธอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ทางเรามุ่งมั่นที่จะวางแผนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยขอรับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากแต่ละบริษัท

ขอขอบพระคุณ