2020.08.17

Case Study

พบกับงานนิทรรศการทางออนไลน์ Japan Recommend IT Online 2020 ในประเทศไทย

Japan Recommend IT Online 2020 คืออะไร

Japan Recommend IT คือโปรเจ็กต์ซึ่งเริ่มต้นมาจากงาน CEBIT ASEAN Thailand ในปี 2019

งานนิทรรศการด้านไอทีเพื่อลูกค้ากลุ่ม B2B ที่มีชื่อว่า CEBIT ASEAN Thailand ถูกจัดขึ้นในปี 2018 โดยมีธงหลักอันเป็นวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองเศรษฐกิจของไทยที่กำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัล ประเด็นน่าสนใจที่พบระหว่างการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้จัดงานก็คือ ผู้ประกอบกิจการท้องถิ่นจำนวนมากในประเทศไทยยังไม่รู้จัก IT Solution ของญี่ปุ่น จริงอยู่ว่าเทคโนโลยีด้าน IT ของญี่ปุ่นจัดอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก ทว่าเทคโนโลยีเหล่านั้นกลับแทบไม่ถูกเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ด้วยเหตุนี้ CEBIT จึงตัดสินใจตั้งโปรเจ็กต์ชื่อว่า “Japan Recommend IT” และเริ่มถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ IT Solution อันเป็นเลิศของญี่ปุ่น ให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทย

(แนวทางการทำงานของ CEBIT อ้างอิงจาก “รายงานการจัดงาน CEBIT ASEAN Thailand 2019” ในเวบบล็อกของ Bigbeat Bangkok )

โควิด-19 สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดค้าขายในกลุ่ม B2B

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือนมกราคม 2020 กลายเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการธุรกิจแบบ B2B ไม่สามารถเดินทางไปพบลูกค้า รวมถึงไม่สามารถจัดงานนิทรรศการ และงานสัมมนาต่าง ๆ ได้ และนั่นทำให้บริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจแบบ B2B ติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนไม่น้อย เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เราจึงเกิดแนวคิดจัดทำโครงการงานนิทรรศการออนไลน์ภายใต้ชื่อ Japan Recommend IT Online 2020 โดยนำเอาระบบ และทรัพยากรที่ Bigbeat Group มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์

ทว่า งานนิทรรศการผ่านระบบออนไลน์ถือเป็นสิ่งใหม่เอี่ยมที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย พูดอีกอย่างหนึ่งคือ Japan Recommend IT Online 2020 เปรียบเสมือนการบุกเบิกสู่เส้นทางจัดนิทรรศการออนไลน์ การคาดคะเนว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากตลาดประเทศไทยดีแค่ไหน? จะมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากเพียงใด? จึงถือเป็นเรื่องยากพอสมควร อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าต้องทำแบบไหนอย่างไรจึงจะเรียกว่าถูกต้องนี้ การเริ่มต้นทดลองทำในสิ่งที่สามารถทำได้ ย่อมดีกว่านิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญของการตลาดแบบ B2B คือกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าหรือบริการ (Lead generation) นั่นหมายความว่าเส้นชัยขึ้นอยู่กับว่าสามารถเข้าถึงบุคคลซึ่งคาดว่าจะเข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทในอนาคตได้มากน้อยแค่ไหน

แพลตฟอร์ม Japan Recommend IT Online ใช้ระบบที่มีชื่อเรียกว่า B-square Online คิดค้นพัฒนาขึ้นโดย Bigbeat เป็นฐานหลักของการบริหารจัดการ ผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าหรือผู้ออกบูธแต่ละบริษัทจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเช่น ประวัติการเข้าชม ประวัติการดาวน์โหลด ประวัติการเข้าฟังของผู้เข้าชม รวมถึงรู้ว่าใครสนใจคอนเทนต์ (สินค้าหรือบริการ) แบบใด

ก้าวสู่ยุคของงานนิทรรศการซึ่งเข้าถึงตลาดประเทศไทยอย่างแท้จริง

จุดเด่น 5 ประการซึ่งเป็นหัวใจของการจัดตั้งโครงการ Japan Recommend IT Online ครั้งนี้ประกอบด้วย

1) ลงคอนเทนต์เป็นภาษาไทยทั้งหมด

การทำ Japan Recommend IT Online จำเป็นต้องสร้างกระแสให้คนไทยผู้ทำงานอยู่ในบริษัทท้องถิ่นเกิดความสนใจ และต้องการเข้าร่วมงานนิทรรศการออนไลน์ ดังนั้นจึงต้องสร้างคอนเทนต์ทั้งหมดเป็นภาษาไทย เพื่อให้คนไทยรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย ไม่รู้สึกอึดอัดกับการอ่านข้อมูลภาษาต่างประเทศ

2) จับมือกับ Media ด้านไอทีซึ่งมีคนไทยติดตาม

จับมือกับ TECHSAUCE และ TechTalk Thai ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมีเดียด้านไอทีเจ้าใหญ่ในประเทศไทย นำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบที่ตรงจุดความสนใจของคนไทยผู้เป็นกลุ่มเป้าหมาย

ตัวอย่างเช่น จัดทำคลิปวิดีโอสัมภาษณ์คุณมีมี่ (Mimee) CEO ของ TECHSAUCE ในหัวข้อเรื่อง จะนำเทคโนโลยีของญี่ปุ่นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม (Digital Transformation) ได้อย่างไร? พร้อมทั้งมีการเสริมคำอธิบายอย่างละเอียดเป็นภาษาไทย (https://www.facebook.com/watch/?v=269900234309814)

ส่วนทางด้านการร่วมมือกับ Tech Talk Thai มีการสร้างคอนเทนต์แนะนำสินค้าของแต่ละบริษัท โดยผู้ใช้งานคนไทย ซึ่งคอนเทนต์หรือบทความเหล่านี้ที่ลงใน Facebook มียอด Like เฉลี่ยมากกว่า 900 ไลก์ และมียอด Share เฉลี่ยมากกว่า 90 ครั้ง

3) คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบดูแลสายงาน

จัดทำคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบคนไทยของแต่ละบริษัท เพื่อให้เข้าใจถึงข้อเด่น คุณสมบัติการทำงานของสินค้าเหล่านั้นแบบเจาะลึก และนำวิดีโอมาลงไว้ใน Japan Recommend IT Online ทำให้ผู้เข้าชมได้รับสารที่ยากจะสื่อผ่านเอกสารดาวน์โหลด จากผู้รับผิดชอบดูแลสินค้าแต่ละชนิด ของแต่ละบริษัทได้ครบถ้วนมากขึ้น

4) จัด Webinar สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ตอบสนองต่อสนองต่อโฆษณาหรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย (Conversion : CV)

เนื่องด้วยมีผู้จัดแสดงสินค้าหลายท่านสอบถามเกี่ยวกับการสัมมนาออนไลน์หรือ Webinar ทางเราจึงจัดเตรียมสัมมนาออนไลน์แบบไลฟ์สด (Live Webinar) เอาไว้ให้ด้วย ในรูปแบบแผนงานพิเศษของ Japan Recommend IT Online ผู้สนใจสามารถติดต่อขอใช้บริการ “b-STUDIO” สตูดิโอซึ่งจัดสร้างใหม่ภายในบริษัท Bigbeat Bangkok โดยมีทีมงานคนไทยทำหน้าที่บันทึกภาพและเผยแพร่ออกอากาศ

5) พื้นที่สำหรับสนทนากับผู้ใช้งานไอทีคนไทย

เป็นที่ทราบกันดีว่าคนไทยใช้เฟซบุ๊กมากติดอันดับต้น ๆ ของโลก แน่นอนว่าการตลาดแบบ B2B ก็จำเป็นต้องพึ่งพาเฟซบุ๊กเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงสร้างเฟซบุ๊กของ Japan Recommend IT Online ขึ้นเพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมของ Japan Recommend IT Online อีกทางหนึ่ง โดยเราคาดหวังให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นพื้นที่สำหรับถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ IT Solution รูปแบบใหม่ ๆของญี่ปุ่น แก่ผู้ประกอบการไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที รวมถึงผู้ใช้งานไอที แม้งานกิจกรรม Japan Recommend IT Online จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม

https://www.facebook.com/JapanRecommendIT/

เตรียมพร้อมมุ่งสู่อนาคต

นับจากการนำเสนอโครงงาน คิดค้นพัฒนาระบบ จนถึงเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมนำเสนอสินค้า เรามีเวลาเตรียมการรวมทั้งสิ้นแค่เพียง 2 เดือน ซึ่งถือเป็นเวลาที่สั้นมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต่อจากนี้พวกเราต้องเผชิญกับโจทย์ปัญหามากมายเป็นภูเขา แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็พร้อมน้อมรับจุดบกพร่อง และนำคำติชมมาใช้เพื่อปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

CEBIT ASEAN Thailand มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่อาจคาดเดาได้ว่างานจะเปิดตัวออกมาในรูปแบบใด ทว่าทางฝ่ายผู้จัดงาน CEBIT ASEAN Thailand ยืนยันเป็นมั่นเหมาะแล้วว่า จะรังสรรค์โปรเจ็กต์ Japan Recommend IT ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาให้ได้

หากมีความคืบหน้าใด ๆ เราจะมาแจ้งให้ทุกท่านทราบเพิ่มเติมอีกครั้งในโอกาสต่อไป