Vision Pro กำลังจะสร้าง Impact ให้กับอุตสาหกรรมสื่อต่างๆ

อุตสาหกรรม Extended Reality (XR) ทั้งหมดกำลังรอคอยวันนี้ที่จะมาถึง – Apple เปิดตัว Apple Vision Pro ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์เชิงพื้นที่เครื่องแรกที่ผสมผสานเนื้อหาดิจิทัลเข้ากับโลกทางกายภาพได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ใช้ปัจจุบันและเชื่อมต่อกับผู้อื่นได้ Vision Pro สร้างผืนผ้าใบที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับแอพที่ขยายขอบเขตเกินขอบเขตของจอแสดงผลแบบเดิม และแนะนำอินเทอร์เฟซผู้ใช้สามมิติเต็มรูปแบบที่ควบคุมโดยการป้อนข้อมูลที่เป็นธรรมชาติและใช้งานง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย ดวงตา มือ และเสียงของผู้ใช้

Apple จัดการถ่ายทอดของการประมวลผลเชิงพื้นที่ได้อย่างไร ผู้คนต่างตั้งตารอคอยการเปิดตัวด้วยเหตุผลบางอย่าง ด้วยการบูรณาการกรณีการใช้งาน XR ต่างๆ ที่อาจดูผิวเผินและเป็นลูกเล่นด้วยตัวมันเอง บริษัทประสบความสำเร็จในการมอบประสบการณ์ที่น่าสนใจและสอดคล้องกัน ซึ่งช่วยให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจถึงคุณค่าของการประมวลผลเชิงพื้นที่ มอบคุณค่าให้กับธุรกิจเฉพาะบางประเภท เช่น เกมส์ VR ต่างๆ Apple มุ่งเน้นไปที่มูลค่าของเนื้อหาทันทีโดยการนำระบบทั้งหมดที่ผู้ใช้คุ้นเคยมาสู่ Vision Pro และปรับปรุงประสบการณ์เหล่านี้ในรูปแบบใหม่ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น: แทนที่จะเป็นแค่หน้าจอแต่กลับเปลี่ยนเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่มีที่สิ้นสุด เชื่อมต่อกับผู้คนผ่าน FaceTime ราวกับว่าคุณกำลังแชร์พื้นที่เดียวกัน ถ่ายภาพและวิดีโอของคุณในรูปแบบ 3 มิติพร้อมเสียง ชมภาพยนตร์ รายการ กีฬา และดื่มด่ำไปกับเกมบนหน้าจอขนาดยักษ์

ผลกระทบของ Vision Pro ต่อบริการสื่อและความบันเทิง
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของ WWDC มีการประกาศว่า Disney+ จะพร้อมใช้งานบน Vision Pro ตั้งแต่วันแรก แพลตฟอร์มเชิงพื้นที่ช่วยให้ดิสนีย์นำแฟนๆ ใกล้ชิดกับตัวละครที่พวกเขารักมากขึ้น และให้ผู้ใช้ดื่มด่ำกับเรื่องราวของพวกเขาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เนื้อหาบางส่วนของ Disney ใน Vision Pro แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่มีแรงบันดาลใจในการเล่าเรื่องที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศของภาพยนต์ กรณีตัวอย่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงการลงทุนที่สำคัญระหว่างผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ

ไม่เพียงแต่จะสร้างความต้องการให้ผู้ให้บริการเนื้อหาเข้าสู่แพลตฟอร์ม XR ใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องให้พวกเขาคิดถึงรูปแบบธุรกิจระยะยาวและกลยุทธ์การสร้างรายได้ และนี่เป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม XR เราได้ผ่านขั้นตอนของการทดลองและการพิสูจน์แนวคิด และตอนนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการปลดล็อกการลงทุนขนาดใหญ่และธุรกิจที่จะย้ายเข็มมาทางด้านนี้ บริษัทสื่อจะต้องเข้าใจว่า XR จะกลายเป็นส่วนเสริมการบริโภคสื่อโดยธรรมชาติ และพวกเขาต้องจัดการกับตลาด XR

ยอมรับว่า XR เป็นส่วนเสริมของสื่อ
แพลตฟอร์มเชิงพื้นที่ “ทำให้เรามีอิสระในการจินตนาการและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่เราเคยสร้างมาก่อน” Alan Dye รองประธานฝ่าย Human Interface ของ Apple กล่าว
นั่นก็หมายความว่าการบริการเนื้อหาจะต้องเรียนรู้วิธีการทำงานผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้สามมิติทั้งหมดอย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสองมิติของพวกเขาจะทำงานอย่างไรในพื้นที่ของผู้ใช้? ความสามารถใหม่ๆ เช่น การติดตามดวงตา สามารถใช้ประโยชน์จากการแนะนำเนื้อหาส่วนบุคคลได้อย่างไร อินเทอร์เฟซสามมิติสามารถใช้ประโยชน์จากการสร้างโฆษณาที่ไม่ก้าวก่ายและการจัดวางผลิตภัณฑ์แบบเกมได้อย่างไร ผู้ให้บริการเนื้อหาจำเป็นต้องค้นหาสมดุลของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและความสามารถใหม่ๆ และยังคงมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่คุ้นเคยและใช้งานง่าย เพื่อสร้างประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งานที่ราบรื่นบนแพลตฟอร์มใหม่ ผู้ชนะในตลาดใหม่คือบริษัทที่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าผู้ใช้จะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่พวกเขาชื่นชอบอย่างไร เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมสูงจะแสดงการเลิกใช้งานที่ต่ำกว่าผู้ใช้ที่ไม่มีส่วนร่วม

การสร้างกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดที่มีประสิทธิภาพสำหรับประสบการณ์ XR

ด้วยราคาที่ตั้งไว้ที่ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ Apple Vision Pro เกินงบประมาณของผู้บริโภคส่วนใหญ่ และมีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี แฟนกีฬาตัวยง และนักเล่นเกมเป็นหลัก กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดจะมีลักษณะอย่างไรสำหรับผู้ให้บริการเนื้อหาที่ต้องการเปิดรับแพลตฟอร์มเชิงพื้นที่ใหม่ๆ เช่น Vision Pro เป็นไปได้ไหมที่จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในราคาที่สูงกว่าสำหรับเนื้อหาเพื่อคว้าโอกาสทางการตลาดนี้? บางทีอาจถึงเวลาแล้วที่ผู้ให้บริการเนื้อหาและเจ้าของเนื้อหาจะต้องสำรวจเหมวดหมู่และรูปแบบการสร้างรายได้ใหม่